ทำความเข้าใจกับเพชร 4C
4Cs คืออะไรนั้น หลายคนอาจยังสงสัยว่ามันคืออะไร สำหรับคนที่วางแผนอยากจะซื้อแหวนเพชรสักวงนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการศึกษาข้อมูลว่าเพชรเม็ดนั้น ว่ามีคุณสมบัติครบ 4Cs หรือไม่ และมีใบเซอร์รับรองหรือป่าว เรามาดูกันดีกว่าว่าหลักของการดูเพชร 4Cs คืออะไรบ้าง…
1. Cutting เจียระไน
เพชรที่ผ่านการเจียระไนจะช่วยเพิ่มความระยิบระยับให้กับผู้สวมใส่ การเจียระไนเพชรเป็นตัวกำหนดโดยตรงถึงรูปทรงของเพชร ความเหลี่ยม ขนาด ความสมมาตรได้สัดสวน และมีแสงสะท้านระยิบระยับแวววาว เพิ่มความโดดเด่นให้กับผู้สวมใส่เลยที่เดียว
2. Color สีของเพชร
โดยส่วนมากคนไทยเราจะเรียกว่า "น้ำ" รวมถึงมีเลขเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ เป็นการวัดความขาวใสของเพชรนั้นเอง โดยเพชร D Color เป็นเพชรที่น้ำดีที่สุด จึงทำให้เพชรดูขาวใสไร้สี
- เพชรน้ำ 100% คือเพชร D Color
- เพชรน้ำ 99% คือเพชร E Color
- เพชรน้ำ 98% คือเพชร F Color
- เพชรน้ำ 97% คือเพชร G Color
- เพชรน้ำ 96% คือเพชร H Color
- เพชรน้ำ 95% คือเพชร I Color
- เพชรน้ำ 94% คือเพชร J Color
- เพชรน้ำ 93% คือเพชร K Color
- เพชรน้ำ 92% คือเพชร L Color
- เพชรน้ำ 91% คือเพชร M Color
- เพชรน้ำ 90% คือเพชร N Color
3. Clarity ความบริสุทธิ์ หรือ ความสะอาด
ตามธรรมชาติของเพชรอาจจะมีความไม่สมบูรณ์ หรือที่เรียกว่า ตำหนิเพชร ซึ่งตำหนิในแต่ละที่ของเพชรทำให้เพชรทุกเม็ดมีเอกลักษณ์
ซึ่ง GIA (Gemological Institute of America) สถาบันที่มีการออกใบรับรองคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลจัดลำดับความบริสุทธิ์ของเพชรดังนี้
· FL (ไร้ตำหนิ)
· IF (ภายในไร้ตำหนิ)
· VVS1 (เพชรมีตำหนิเล็กมากๆ1)
· VVS2 (เพชรมีตำหนิเล็กมากๆ 2)
· VS1 (เพชรมีตำหนิเล็กมาก 1)
· VS2 (เพชรมีตำหนิเล็กมาก 2)
· SI1 (เพชรมีตำหนิเล็ก 1)
· SI2 (เพชรมีตำหนิเล็ก 2)
· I1 (เพชรมีตำหนิขนาดใหญ่ 1)
· I2 (เพชรมีตำหนิขนาดใหญ่ 2)
4.Carat Weight น้ำหนักเพชรหรือกะรัต
กะรัตหมายถึงหน่วยในการวัดระดับของน้ำหนักอัญมณีต่างๆ โดยเพชรน้ำหนัก 1 กะรัต = 0.2 กรัม ยิ่งเพชรมีน้ำหนักมาก เพชรก็จะมีมูลค่ามากขึ้นตามน้ำหนักของกะรัตทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรูปร่างและการเจียระไน เพชรขนาด 1 กะรัตสองเม็ดจึงอาจมีรูปร่างและขนาดที่แต่งต่างกัน
